Windows 11 โดยเฉพาะเวอร์ชัน 24H2 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางไมโครซอฟท์ได้กล่าวโอ้อวดไว้ว่าเสถียรที่สุดนั้น ผู้ใช้งานหลายรายกลับให้ความเห็นว่ารุ่นดังกล่าวนั้นมีปัญหาเยอะมาก ตรงกับการที่มีข่าวเรื่องการปรับปรุงอัปแพทช์แล้วแทนที่จะแก้ปัญหา กลับสร้างปัญหาใหม่อย่างบ่อยครั้ง บางครั้งก็ร้ายแรงมากเช่นข่าวนี้
ทั้งนี้ ต้องบอกก่อนว่า โปรดรับข้อมูลนี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากทาง Microsoft ยังไม่ได้ออกมายืนยันปัญหานี้อย่างเป็นทางการ ตามรายงานซึ่งมีต้นทางจากเว็บไซต์ญี่ปุ่นชื่อ Niche PC Gamer ระบุว่า การอัปเดตด้านความปลอดภัยล่าสุดของ Windows 11 หมายเลข KB5063878 และ KB5062660 กำลังสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้บางราย
ADVERTISEMENT
- มัลแวร์ GodRAT ใช้ไฟล์ Screen Saver ปลอม ลักลอบเข้าฝังตัวระบบระดับองค์กร
- มัลแวร์ PipeMagic อ้างเป็นแอป ChatGPT หลอกให้ดาวน์โหลดเจาะช่องโหว่ Windows ฝังแรนซัมแวร์
- Noodlophile กลับมาอีกแล้ว ด้วยวิธีการสุดเฉียบ หลอกลวงด้วยแจ้งเตือนลิขสิทธิ์ปลอม
- แฮกเกอร์ใช้โฆษณาปลอม และ SEO สายดาร์ก ปล่อยมัลแวร์ PS1Bot สู่เครื่องของเหยื่อ
- แก๊งแรนซัมแวร์ รวมมัลแวร์เข้ากับเครื่องมือจัดการระบบ เพื่อโจมตีบริษัท
ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นของอัปเดตทั้ง 2 ตัวนั้นต่างกันเล็กน้อยดังนี้
- KB5063878 เป็นอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดประจำเดือนสิงหาคม
- KB5062660 เป็นอัปเดตเวอร์ชันทดลอง (Preview Update) ที่ออกให้ใช้งานในช่วงเดือนกรกฎาคม
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้ใช้งานบางรายได้รายงานว่า หลังอัปเดตแล้วถ้ามีการใช้งานฮาร์ดดิสก์แบบ SSD (Solid State Disk) ในบางรุ่นแล้ว เมื่อผู้ใช้งานกระทำการดังนี้
- เคลื่อนย้ายไฟล์ในปริมาณมากลงสู่ฮาร์ดดิสก์แบบรวดเดียวในเวลาอันสั้น
- เคลื่อนย้ายไฟล์ขนาดใหญ่มาแบบไฟล์เดี่ยวลงสู่ฮาร์ดดิสก์
จะนำไปสู่การที่ผู้ใช้งานจะไม่สามารถมองเห็นไดร์ฟ SSD หลังจากที่ใช้งานเสร็จ และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนั้นไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป แม้จะทำการรีบูทเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งผู้ใช้งานรายหนึ่งที่ซึ่งเป็นสมาชิกโซเชียลมีเดีย X (อดีต Twitter) ชื่อว่า Necoru_cat ได้ทำการอัปเดตวิดีโอเกม Cyberpunk 2077 หลังจากที่ได้ทำการติดตั้งอัปเดต Windows 11 ประจำเดือนดังกล่าวไป กลับพบว่าไดร์ฟที่ติดตั้ง Cyberpunk 2077 นั้นไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไปหลังจากที่ได้ติดตั้งอัปเดตของวิดีโอเกมที่ปริมาณไฟล์ที่ต้องถ่ายโอนรวมกันใหญ่ถึง 50 กิกะไบต์ (GB หรือ GigaByte) โดยระหว่างการติดตั้งนั้น ตัวไดร์ฟ SSD ขึ้นสถานะการทำงานที่สูงถึง 60% ก่อนประจำปัญหาดังกล่าว แต่หลังจากที่ทำการรีสตาร์ทเครื่องกลับสามารถเห็นไดร์ฟดังกล่าวได้ตามปกติอีกครั้ง
ผลการทดสอบจากทาง Niche PC Gamer
ทางนิตยสาร Niche PC Gamer ได้ทำการทดสอบกับไดร์ฟ SSD หลายรุ่นแล้วได้ทำการสรุปออกมาว่า มีรุ่นใดที่ได้รับผลกระทบ และรุ่นใดที่ไม่ได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งผลทดสอบนั้นเป็นไปดังนี้
รุ่นที่ได้รับผลกระทบ
- Corsair Force MP600
- SSD with Phison PS5012-E12 controller
- KIOXIA EXCERIA PLUS G4
- Fikwot FN955
- SSD with InnoGrit controller
- Maxio SSD
- KIOXIA M.2 SSD
- SanDisk Extreme PRO M.2 NVMe 3D SSD
รุ่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ
- Solidigm P44 Pro
- Samsung 980
- SanDisk SSD PLUS 240GB SDSSDA-240G
ผลการทดสอบจากทาง Necoru_cat
ทาง Necoru_cat ก็ได้ทำการทดสอบในแนวทางเดียวกัน ซึ่งผลการทดสอบนั้นมีดังนี้
รุ่นที่ได้รับผลกระทบ (ทุกรุ่นต้องรีสตาร์ทเพื่อให้เห็นไดร์ฟอีกครั้ง ยกเว้นบางรุ่นที่มีหมายเหตุ)
- WD Blue SN5000 2TB NVMe
- WD Red SA500 2TB SATA
- WD Blue SA570 1TB SATA M.2
- WD Blue SA510 2TB SATA (ไม่สามารถกู้ได้แม้ทำการรีสตาร์ทแล้ว)
- Corsair MP510 960GB NVMe
- Corsair MP600 2TB NVMe
- SK hynix Platinum P41 NVMe
- Crucial P3 Plus NVMe
- ADATA LEGEND 800 2TB NVMe
- HP FX7000 2TB NVMe
- XPG SX8200 Pro 2TB NVMe
- Hanye HE70 2TB NVMe
รุ่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ
- Samsung 990 PRO 2TB NVMe
- Samsung 980 PRO 2TB NVMe
- Samsung 870 EVO 1TB SATA
- WD Black SN7100 2TB NVMe
- WD Blue SA510 1TB SATA M.2
- Seagate FC530 2TB NVMe
- Seagate FC530 1TB NVMe
- Solidigm P44 Pro NVMe
- Crucial T700 2TB NVMe
สำหรับการแก้ไขในปัจจุบันนั้น ถ้าผู้อ่านท่านใดที่ไม่ได้ทำการอัปเดต Windows ด้วยอัปเดตหมายเลขดังกล่าวขอให้ทำการเลี่ยงอัปเดตไปก่อน ส่วนผู้ที่ทำการอัปเดตไปแล้วขอให้ทำการตรวจรอบรุ่นของ SSD และถ้าเป็นรุ่นที่พบปัญหา ขอให้ทำการเลี่ยงทำการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่จนกว่าจะมีอัปเดตใหม่ออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ที่มา : www.ghacks.net
คำสำคัญ »
ข่าวไอทีที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็น








นักเขียน









